5 ประเภท Google Ads ที่คนทำธุรกิจออนไลน์ ต้องรู้!

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคสมัยนี้ การทำโฆษณาในช่องทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ธุรกิจทั้งเล็ก กลาง และใหญ่ สามารถไปต่อได้อย่างมีศักยภาพ ตลอดจนสามารถสร้างผลกำไรให้แซงหน้าคู่แข่งได้อย่างไม่ยากเย็น

และหนึ่งในเครื่องมือทำตลาดออนไลน์อันทรงพลังที่ธุรกิจทั้งหลายไม่ควรพลาด! นั่นก็คือ “Google Ads” จากคุณสมบัติและจุดเด่นหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาบนเครือข่ายเสิร์ชเอนจิ้นยักษ์ใหญ่ของโลก การโฆษณาออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและกระตุ้นให้เกิดยอดขาย (Conversion) ได้ และที่สำคัญคือรูปแบบโฆษณาที่มีให้เลือกมากมาย พร้อมตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

ในวันนี้ Nipa Agency เลยอยากมาแนะนำ 5 รูปแบบการโฆษณายอดนิยมบน Google Ads กัน แบบไหนที่เขาว่าดี แบบไหนที่เขาว่าปัง เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกันแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันได้เล้ย!

Google Ads ที่คนทำธุรกิจออนไลน์ ต้องรู้! 5 ประเภท

Search Ads

หรือ Paid Search เป็นการโฆษณาในหน้าผลการค้นหาของกูเกิ้ล (Search Engine Result Pages : SERPs) ซึ่งจะทำให้ลิงก์เว็บไซต์สินค้าและบริการของผู้ที่ทำโฆษณา ขึ้นมาอยู่ในหน้าแรกของการค้นหาด้วย Keyword ที่ผู้ทำโฆษณาได้ซื้อเอาไว้ ถือเป็นแคมเปญโฆษณาที่เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภท 

จุดเด่น

• เป็นวิธีโฆษณาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกวันนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเสิร์ชค้นหาข้อมูลของสินค้าหรือเปรียบเทียบสินค้ากับแบรนด์อื่นๆ ผ่านทางกู้เกิ้ลก่อนเป็นอันดับแรก
  
  
• สร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) ได้ดี  

Display Ads

เป็นวิธีโฆษณาในรูปแบบของแบนเนอร์รูปภาพ ตัวอักษร (Text Ads) หรือวิดีโอ โดยจะขึ้นปรากฎในเว็บไซต์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Google คล้ายกับโฆษณาบนป้ายบิลบอร์ดที่เราเห็นตามทางด่วนนั่นเอง

 จุดเด่น

• ช่วยให้แบรนด์ธุรกิจได้พบเจอกับลูกค้าตัวจริง เพราะ Google จะส่งแบนเนอร์โฆษณาไปยังหน้าเว็บไซต์ที่เป็นหมวดหมู่คล้ายกัน เช่น โฆษณาธุรกิจโรงแรม ก็จะไปปรากฎในหน้าเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวนั่นเอง
  
  
• เพิ่มการมองเห็นสินค้าและบริการของธุรกิจ พร้อมกระตุ้นให้เกิดการคลิกแบนเนอร์มากขึ้น หากใช้ข้อความหรือรูปภาพประกอบที่น่าสนใจ
  
  
• สร้าง Brand Awareness ได้ดี

Youtube Ads

เป็นวิธีโฆษณาบน Youtube แพลตฟอร์มวิดีโอในเครือข่ายของ Google เอง ซึ่งสามารถโฆษณาได้หลากหลายวิธี เช่น

• Display ads การโฆษณาในช่องด้านขวาของวิดีโอ
• Overlay ads แบนเนอร์โฆษณาขนาดเล็กที่ด้านล่างของคลิปวิดีโอ
• Skippable video ads โฆษณาที่ขึ้นก่อนหรือระหว่างที่คลิปวิดีโอกำลังเล่น อยู่ สามารถกด Skip ได้ 
• Non-Skippable video ads เป็นวิธีโฆษณาที่คล้ายกับ Skippable video ads แต่ผู้ใช้งานไม่สามารถกดข้ามโฆษณาไปได้ ต้องดูจนจบคลิป
• Bumper ads เป็นโฆษณาที่กดข้ามไม่ได้ แต่มีความยาวเพียง 6 วินาที
• Sponsored Cards เป็นรูปโฆษณาขนาดเล็กด้านขวาของคลิปวิดีโอ โดยจะแสดงโฆษณาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับคลิปวิดีโอ

จุดเด่น

• ช่วยเพิ่มยอดการเข้าถึงของผู้ชม
  
  
• สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือเขตพื้นที่ที่ต้องการได้
  
  
• ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ เช่น สร้าง Brand Awareness ในวงกว้าง โฆษณาสินค้าและบริการเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงสิ้นปี 

Shopping Ads

เมื่อผู้ใช้งานกูเกิ้ล ได้เสิร์ชค้นหาสินค้าหรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง กูเกิ้ลจะแสดงหน้าต่างรายการสินค้าที่เกี่ยวข้องเป็นแบบหน้ากระดาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกซื้อได้ทันที เป็นวิธีโฆษณาที่มาแรง โดยเฉพาะธุรกิจที่ได้นำสินค้าของตนไปวางขายที่เว็บไซต์ E-Commerce ต่างๆ 

จุดเด่น

• ผู้บริโภคสามารถคลิกดูรายละเอียดของสินค้าได้ เช่น ขนาด รุ่น ราคา และสามารถคลิกสั่งซื้อสินค้าได้ทันที
  
  
• ช่วยให้สินค้ามีโอกาสขึ้นไปอยู่ในหน้าผลการค้นหา (SERPs) ในหน้าแรกๆ
  
  
• ช่วยลดจำนวนคลิกระหว่างทางและลดขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าที่ยุ่งยาก จึงเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
  
  
• ช่วยให้สินค้าหรือบริการของธุรกิจ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลายช่องทาง

App Install

เป็นแคมเปญโฆษณาที่กระตุ้นให้เกิดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการขายต่างๆ 

• ผลักดันให้เกิดการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ธุรกิจต้องการ
  
  
• ลดขั้นตอนการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปที่ยุ่งยาก โดยผู้ใช้งานสามารถคลิกดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทันที