ส่อง Google Trends ยุคหลัง COVID-19 อะไรเลิกฮิต อะไรฮิตต่อ

สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยถือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกสองขึ้น แต่ทุกคนทราบมั้ยว่าภายใต้สถานการณ์โควิดที่ยิงยาวมาตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบันก็นับได้หลายเดือนแล้ว นอกจากความเปลี่ยนแปลงด้านการใช้ชีวิตและสุขภาพที่ทุกคนหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและการค้าขายก็เกิดขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน เกิดสินค้าใหม่ๆ ที่ได้รับความนิยมจนขาดตลาดและมีราคาสูง ไปจนถึงสินค้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูแนวโน้มกันซะหน่อยว่าสินค้าแบบไหนที่ยังฮิตติดลมบน และชิ้นไหนที่ค่อยๆ ร่วง กลายเป็นสินค้าค้างสต็อกกันบ้าง ตามมาดูเล้ย 

เครื่องมือที่เราจะใช้ในการดูนี้เรียกว่า Google Trends ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับเครื่องมือตัวนี้เล็กๆ น้อยๆ กันก่อนที่จะไปลงรายละเอียดกับ COVID-19 กันต่อ Google Trends เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานของ Google โดยให้เราสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้แบบทันทีทันใด ที่ https://trends.google.com/trends โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่ง  Google Trends จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถเข้าไปดูข้อมูลอินไซต์เกี่ยวกับความนิยมหรือความต้องการของผู้บริโภคต่อสินค้าที่ตนเองกำลังขายอยู่ได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งข้อดีของการที่ได้ทราบว่าช่วงนี้สินค้าชนิดไหนเป็นที่ต้องการทำให้คุณพ่อค้าแม่ค้าสามารถนำมาประกอบการตัดสินใจต่อได้ว่าควรบริหารจัดการกับสินค้าในคลังของตัวเองอย่างไรดี 

กลับมาที่เรื่องที่เราจะพูดกันในวันนี้ต่อดีกว่า สำหรับเทรนด์สินค้ายุคหลัง COVID-19 ที่คุณ “ไมเคิล จิตติวาณิชย์” หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย ได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาเปิดให้เราได้ดูกัน โดยครั้งนี้เขาได้แบ่งเป็นสินค้า 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มเริ่มแล้วเลิก (Start/Stop) กลุ่มเริ่มแล้วทำต่อไป (Step-Change) และ กลุ่มกระแสรองกลายเป็นกระแสหลัก (Speed Up) เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดแต่ละแบบไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่าคืออะไรบ้าง 

กลุ่มที่ 1 เริ่มแล้วเลิก (Start/Stop)

สินค้าในกลุ่มนี้จะถูกค้นหามากเป็นพิเศษในช่วงเริ่มการระบาดของโรค COVID-19 และลดลงเรื่อยๆ ตามการคลายล็อกของรัฐบาล หรืออีกนัยหนึ่งคือความต้องการหรือการค้นหาลดลงกลับเป็นปกติเหมือนตอนก่อนเกิดโรคระบาด โดยส่วนมากจะเป็นสินค้าเกี่ยวกับ “ความสะอาดปลอดภัย” และสินค้าประเภท “DIY” เนื่องจากช่วงนั้นคนอยู่บ้านและร้านค้าต่างๆ ปิดบริการชั่วคราว ดังตัวอย่างกลุ่มต่อไปนี้ 

1.1 สินค้าเกี่ยวกับความสะอาดปลอดภัย ได้แก่ หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า, เจลล้างมือ, แอลกอฮอล์ล้างมือ ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ถูกค้นหามากในช่วงที่มีการระบาดหนักๆ และค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ตามสถานการณ์

1.2 การดูแลความงามด้วยตัวเอง (DIY) ในช่วงที่ทุกๆ คนต้องอยู่บ้าน การค้นหาเกี่ยวกับความงามลดลง 5% แต่ในทางกลับกับการค้นหาเกี่ยวกับการดูแลความงามด้วยตัวเองกลับเพิ่มขึ้น เช่น วิธีตัดผมเอง วิธีทำผมเอง เป็นต้น และค่อยๆ ลดลงไปเนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้นและคนต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ

กลุ่มที่ 2 เริ่มแล้วทำต่อไป (Step-Change)

สำหรับกลุ่มนี้ Google Trends ชี้ให้เห็นว่า ช่วงก่อน COVID-19 ระบาดจะไม่มีการค้นหาที่มากนัก แต่กลับมาพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่โรคระบาดหนักๆ และหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นแล้วกราฟก็ยังลดลงไม่มากนัก (ยังไม่ลดไปเท่ากับช่วงก่อน COVID-19) และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตต่อไปแม้จะช้าลงก็ตาม ทำให้เห็นว่าเป็นสิ่งใหม่ที่คนไทยให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง แม้โรคระบาดจะคลี่คลายแล้วก็ตาม ซึ่งมีตัวอย่างดังนี้ 

2.1 การเรียนออนไลน์  จาก Google Trends พบว่ามีการค้นหาคำว่า “เรียน” ใน Youtube มากขึ้นเป็น 2 เท่า และพื้นที่ที่เสิร์ชหามากที่สุดต่อจำนวนประชากรเป็นพื้นที่ในต่างจังหวัด และการค้นหาใน Google พบว่าคำว่า “เรียน ออนไลน์ ได้ เกียรติบัตร” เพิ่มขึ้นถึง 2,400% จากปีก่อน และคำว่า “คอร์ส ออนไลน์” เพิ่มขึ้น 300% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนเลยทีเดียว

2.2 ซูเปอร์มาร็เก็ตออนไลน์

จากการสำรวจในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลซึ่งมีบริการเดลิเวอรี่สินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตโดยการสั่งออนไลน์ พบว่ามีการเติบโตขึ้นมากถึง 6 เท่า ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงมกราคม-มีนาคม 2020 

กลุ่มที่ 3 กระแสรองกลายเป็นกระแสหลัก (Speed Up)

สำหรับสินค้าหรือบริการในกลุ่มนี้ กราฟจะแสดงผลการค้นที่ที่เติบโตต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ก่อนยุค COVID-19 แต่ยังไม่แมส จนกระทั่งช่วงโควิดระบาดก็กลายเป็นคำคนหาที่คนส่วนใหญ่ใช้ และเมื่อถึงช่วงนี้ที่สถานการณ์ในประเทศคลี่คลายลงแล้ว ก็ยังคงกลายเป็นความต้องการหลักๆ เนื่องจากผู้คนเกิดความเคยชินไปแล้ว อาทิกลุ่มสินค้าประเภท 

3.1 Food Delivery นับตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาด การค้นหาแอปพลิเคชันประเภทนี้ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่กลางปี 2019 แต่มาพุ่งขึ้นถึง 4 เท่าตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา และการค้นหาส่วนใหญ่จะเกิดในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เนืองจากเป็นเขตที่มีความพร้อมในการให้บริการ

3.2 การทำอาหาร นับว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสหลักในช่วงอยู่บ้านเลยก็ว่าได้ เพราะหลายๆ คนได้ออกมาแสดงฝีมือทำอาหารกันอย่างมากมาย โดยคำว่า “เมนู” ถูกค้นหาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าบน Youtube ซึ่งนำไปสู่การค้นหาเกี่ยวกับสินค้าใน Google เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน ถูกค้นหาเพิ่มมากถึง 2,400% เตาไฟฟ้า 400% และไมโครเวฟ 156%

จะเห็นได้ว่ามีสินค้าหลายชนิดที่แตกต่างกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่ในขาขึ้นและขาลงมากมาย ซึ่งจะบอกว่าการที่เราใช้ Google Trends ในการสำรวจตลาดก่อนว่าอะไรกำลังมาแรงและแนวโน้มจะเป็นยังไงต่อไป สามารถช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายและรอบคอบขึ้นก่อนจะลงทุนสต็อกอะไรไป สำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะขายของก็ลองเข้าไปนั่งเช็กกันเล่นๆ ได้เลย ถือว่าเป็นการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจอะเนอะ เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าการลงทุนมันมีความเสี่ยงมากนั่นเอง